ข้อมูลพื้นฐาน
ลักษณะการดำเนินธุรกิจ
บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (Thai Enger Holding Public Company Limited) (“TIGER” หรือ “บริษัทฯ”) จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 เพื่อประกอบธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยในปัจจุบัน บริษัทฯ มีการถือหุ้นร้อยละ 99.99 ในบริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (Thai Enger Company Limited) (“TEC” หรือ “บริษัทแกน”) ซึ่งเป็นบริษัทแกน (Core Company) ประกอบธุรกิจหลักคือให้บริการรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาทุกประเภท รวมทั้งงานออกแบบวิศวกรรม และงานออกแบบสถาปัตยกรรม (Construction Contractor – Build & Design) นอกจากนี้ ยังดำเนินธุรกิจที่สนับสนุนการให้บริการรับเหมาก่อสร้าง (เรียกโดยรวมว่า “กลุ่มบริษัท”) โดยเข้าถือหุ้นในบริษัทอื่นซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
กลุ่มบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและส่วนงานสนับสนุนการรับเหมาก่อสร้าง
1). บริษัท ทีอีจี อลูมินั่ม จำกัด (“TEG”) เป็นบริษัทย่อยซึ่งถือหุ้นโดย TEC ร้อยละ 99.99 ประกอบธุรกิจออกแบบและผลิต พร้อมติดตั้งอุปกรณ์จากกระจกและอลูมิเนียมสำหรับงานสถาปัตยกรรม เช่น งานประตูจากอลูมิเนียม งานหน้าต่างจากอลูมิเนียม ผนังกระจก (Glass Curtain Wall) และแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิท (Aluminum Composite Cladding) เป็นต้น
2). บริษัท ทีอี แมค จำกัด (“TEM”) เป็นบริษัทย่อยซึ่งถือหุ้นโดย TEC ร้อยละ 70.00 (อีกร้อยละ 30 ถือหุ้นโดยนายวสันต์ เล็กประเสริฐซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง และเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการออกแบบและผลิตระบบน้ำดีและน้ำเสียที่ใช้ในอาคารที่พักอาศัย เช่น สำนักงาน โรงแรม และโรงงาน เป็นต้น รวมทั้งธุรกิจซื้อมาขายไปอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับงานก่อสร้าง) ประกอบธุรกิจออกแบบและผลิต พร้อมติดตั้งระบบน้ำดีและน้ำเสีย รวมทั้ง จัดหาและจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างอื่นๆ เช่น เครื่องสุขภัณฑ์ กระเบื้องปูพื้น เป็นต้น
กลุ่มบริษัทร่วมที่ดำเนินธุรกิจอื่น
3). บริษัท ออปติไวส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมซึ่งจัดตั้งเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 และถือหุ้นโดย TIGER ร้อยละ 40 (อีกร้อยละ 60 ถือหุ้นโดยนิติบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องแห่งหนึ่ง) บริษัทดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการจัดการข้อมูลและการสื่อสารองค์กร โดยมีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 บริษัทดังกล่าวยังไม่เริ่มประกอบธุรกิจ


จุดเด่นและศักยภาพการแข่งขัน
1
บุคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ
- ผู้บริหารเป็นผู้ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี
- ทีมวิศวกรมีความชำนาญด้านงานวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร และงานโยธาทุกประเภท ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้งานก่อสร้างสำเร็จลุล่วง
2
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า (Partner)
- สร้างความประทับใจ และความพึงพอใจด้านงานบริการให้แก่เจ้าของโครงการเพื่อให้เกิดการบอกต่อ
- รวมทั้งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในแต่ละโครงการก่อสร้างเพื่อสร้างโอกาศทางธุรกิจ
3
งานบริการที่มีคุณภาพ
- ทีมวิศวกรและทีมผู้บริหารร่วมกันจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ร่วมกันวางแผนงานก่อสร้าง และคำนวนต้นทุนที่แม่นย่ำมากที่สุด ทำให้สามารถเสนอราคาที่เหมาะสมที่สุดให้แก่ลูกค้าได้
4
การบริการหลังการส่งมอบงาน
- มีทีมงานที่มีใจรักในงานบริการ คอยดูแลช่วยเหลือ และให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าที่อาจประสบปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากการส่งมอบงานซึ่งจะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ และการบอกต่อ
5
การใช้ระบบสารสนเทศในการบริหารจัดการ
- มีการนำระบบทางด้านสารสนเทศ เข้ามาใช้ในการตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าของโครงการรับเหมาต่างๆ ซึ่งทำให้ผู้บริหารรับทราบถึงการดำเนินการของโครงการแต่ละโครงการอย่างต่อเนื่องและแก้ปัญหาได้อย่างทันเวลา
6
บริษัทมีการประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิศวกรรมคุณค่า (Value engineering)
- ในการวิเคราะห์และคำนวนความเหมาะสมด้านการใช้งานอาคาร เช่น ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อเสนอแนะให้เจ้าของโครงการสามารถประหยัดต้นทุนในการก่อสร้างให้มีความเหมาะสม ในขณะที่ยังรักษาประสิทธิภาพการใช้งานของตัวอาคารให้เป็นไปตามที่กำหนดได้
ข้อมูลการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน
ทุนจดทะเบียน
230,000,000 บาท
460,000,000 หุ้น
หุ้นละ 0.50 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
168,860,000 บาท
337,720,000 หุ้น
หุ้นละ 0.50 บาท
เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน
122,280,000 หุ้น
26.58%
วัตถุประสงค์การใช้เงิน
ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของ TEC TEA และ TEM
นโยบายการจ่ายเงินปันผล
ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ หลังหักภาษี ทุนสำรองตามที่กฎหมายกำหนด และภาระผูกพันตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้