ประวัติความเป็นมา

บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (“TIGER”)

TIGER จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559

บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (“TIGER”)

มีนาคม 2564

  • TIGER เข้าร่วมลงทุนจัดตั้ง บริษัท คอนส์ อินโน จำกัด จัดตั้งด้วยทุนจดทะเบียน 2.00 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 20,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดย TIGER ถือหุ้นร้อยละ 60 บริษัทดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายสินค้าประเภทนวตกรรมก่อสร้าง

ตุลาคม 2562

  • TIGER เข้าร่วมลงทุนจัดตั้ง บริษัท ออปติไวส์ จำกัด ซึ่งจัดประเภทเป็น บริษัทร่วม เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 และถือหุ้นโดย TIGER ร้อยละ 40 บริษัทดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการจัดการข้อมูลและการสื่อสารองค์กร

ตุลาคม 2561

  • TIGER เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคม 2561 ทำให้ทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทเท่ากับ 230 ล้านบาท
  • หุ้นสามัญของ TIGER ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้เริ่มซื้อเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดเอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 24 ตุลาคม 2561

มิถุนายน 2561

  • ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทของ TIGER เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2561 ได้มีมติอนุมัติให้ขายหุ้นของ TET ที่ TIGER ถืออยู่จำนวน 8.612 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ให้แก่นายบริพันธุ์ วรรณขจรกิจและนายวินัย วรรณขจรกิจในราคาหุ้นละ 10.00 บาท รวมเป็นเงิน 86.12 ล้านบาท (อ้างอิงจากราคาที่ TIGER ลงทุน ใน TET ซึ่งเท่ากับราคาหุ้นละ 10 บาท) เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างออกจากกลุ่มบริษัท พร้อมทั้งนายบริพันธุ์ วรรณขจรกิจได้ลาออกจากการเป็นกรรมการและผู้บริหารของกลุ่มบริษัท โดยมีคณะกรรมการตรวจสอบเข้าร่วมประชุมครบ 3 ท่าน เพื่อพิจารณาอนุมัติถึงความเหมาะสมของการทำรายการ พร้อมกันนี้ได้พิจารณาอนุมัติให้นำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
  • เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจ ผู้ถือหุ้นนายบริพันธุ์ วรรณขจรกิจ และนายวินัย วรรณขจรกิจจึงได้ขายหุ้นของ TIGER ที่ถืออยู่ทั้งหมดจำนวน 165.48 ล้านหุ้นให้แก่นายจตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์จำนวน 99.29 ล้านหุ้น และนายกิตติ ดุษฎีพฤฒิพันธุ์จำนวน 66.19 ล้านหุ้น

มีนาคม 2561

  • ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2561 ของ TIGER มีมติอนุมัติเรื่องที่สำคัญ ดังนี้
    • อนุมัติการแปรสภาพจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชน
    • เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้นจาก 10.00 บาทต่อหุ้นเป็น 0.50 บาทต่อหุ้น
    • เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 61.14 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 168.86 ล้านบาท เป็น 230.00 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 122.28 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ของทุนจดทะเบียนเพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering : IPO) คิดเป็นร้อยละ 26.58 ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้

พฤศจิกายน 2559

  • TIGER จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 โดยถือหุ้นร้อยละ 99.99 ในบริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (TEC) และร้อยละ 99.99 ในบริษัท ไทย อิงเกอร์ เทคโนโลยี จำกัด (TET) โดย TET มีกลุ่มผู้ถือหุ้นได้แก่ นายบริพันธุ์ วรรณขจรกิจ และนายวินัย วรรณขจรกิจ ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาติดตั้งและวางระบบทางวิศวกรรมด้านการจราจรและคมนาคม โดยขั้นตอนการถือหุ้นของ TIGER มีดังต่อไปนี้
    • บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (“TIGER”) จดทะเบียนจัดตั้งด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 86.12 ล้านบาทแบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 8.612 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท เพื่อดำเนินแลกกับหุ้นสามัญ (Share Swap) ร้อยละ 99.99 ของ TET จำนวน 8.612 หุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ชำระแล้ว โดยมีมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์สุทธิ ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 จำนวน 86.12 ล้านบาท
    • ต่อมาเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน TIGER ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 82.74 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 8.274 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ TEC เพื่อดำเนินแลกกับหุ้นสามัญ (Share Swap) จำนวน 299,998 หุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ชำระแล้ว
  • ภายหลังการจัดโครงสร้าง บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 168.86 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 16.89 ล้านหุ้น มูลค่าที่ค่าไว้หุ้นละ 10 บาท ชำระเต็มจำนวน โดย TIGER เป็นผู้ถือหุ้นใน TEC และ TET จำนวนร้อยละ 99.99 และร้อยละ 99.99 ตามลำดับ ตามลำดับ (ข้อมูลโครงสร้างบริษัทอยู่ในส่วนที่ 1.4 แผนผัง 1)

บริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (“TEC”) และบริษัทย่อย

สิงหาคม 2563

  • TEC เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 150 ล้านบาท เป็น 500 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 350 ล้านบาท (แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 3.5 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท) เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและเพิ่มความสามารถของ TEC ในการรับงานโครงการขนาดใหญ่

ตุลาคม 2562

  • เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 TIGER ได้ลงทุนในบริษัท ออปติไวส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการจัดการข้อมูลและการสื่อสารองค์กร บริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท (ประกอบด้วยหุ้นสามัญ จำนวน 500,000 หุ้น มูลค่า 10 บาท ต่อหุ้น) โดยบริษัทได้ลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทร่วมดังกล่าวในสัดส่วนร้อยละ 40 คิดเป็นจำนวน 200,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท ต่อหุ้น รวมจำนวนเงิน 2 ล้านบาท กลุ่มบริษัทรับรู้รายการดังกล่าวเป็นเงินลงทุนในบริษัทร่วม

ธันวาคม 2561

  • TEC เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 66.00 ล้านบาท เป็น 150.00 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 840,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ชำระเต็มจำนวนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
  • TEC ได้ทำการเพิ่มทุนใน TEG ซึ่งเป็นบริษัทย่อยจาก 3.00 ล้านบาท เป็น 20.00 ล้านบาท (แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 200,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท) โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 17 ล้านบาท (แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 170,000 หุ้นมูลค่าหุ้นละ 100 บาท) ภายหลังการเพิ่มทุนดังกล่าว สัดส่วนการถือหุ้นทางอ้อมของ TIGER ใน TEG ดังกล่าวยังคงเดิมที่ร้อยละ 100

มีนาคม 2561

  • คณะกรรมการของ TIGERครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 ได้มีมติอนุมัติการจัดตั้งบริษัท ทีอี แมค จำกัด (“TEM”) ด้วยทุนจดทะเบียน 1.00 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1 แสนหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท เรียกชำระเต็มจำนวน โดยมี TEC ถือหุ้นร้อยละ 70.00 และมีนายวสันต์ เล็กประเสริฐถือหุ้นร้อยละ 30.00 เพื่อประกอบธุรกิจออกแบบและผลิต พร้อมติดตั้งระบบน้ำดีและน้ำเสีย รวมทั้งจัดหาและจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างอื่นๆ เช่น เครื่องสุขภัณฑ์ กระเบื้องปูพื้น เป็นต้น โดยได้ดำเนินการจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2561 ทั้งนี้นายวสันต์ เล็กประเสริฐ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบและผลิตระบบน้ำดีและน้ำเสียที่ใช้ในอาคารที่พักอาศัย เช่น สำนักงาน โรงแรม และโรงงาน เป็นต้น รวมทั้งธุรกิจซื้อมาขายไปอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับงานก่อสร้าง ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 30 ในบริษัท ไอ แท้งค์ จำกัด (อีกร้อยละ 70 เป็นของผู้ถือหุ้น 2 กลุ่ม ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกันกับนายวสันต์ เล็กประเสริฐ) ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบและผลิต ระบบถังน้ำดีและน้ำเสีย รวมทั้งเป็นกรรมการและผู้บริหารหลักในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ภายหลังที่กลุ่มบริษัทบรรลุข้อตกลงทางธุรกิจกับนายวสันต์ เล็กประเสริฐ ในการก่อตั้ง TEM ขึ้น ทางนายวสันต์ เล็กประเสริฐ จึงได้ลาออกจากการเป็นกรรมการและผู้บริหาร ทำให้ไม่มีผู้บริหารมาดำเนินธุรกิจเดิมต่อในบริษัท ไอ แท้งค์ จำกัด และเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2561 ได้ขายหุ้นที่ตนเองถืออยู่ทั้งหมดใน บริษัท ไอ แท้งค์ จำกัด ร้อยละ 30 ให้แก่นางลัดดาวัลย์ ศิริเวชวิวัฒน์ ซึ่งเป็นมารดาของคู่สมรสของนายวสันต์ เล็กประเสริฐ ถือหุ้นแทน เนื่องจากยังไม่สามารถหาผู้ใดมาซื้อหุ้นดังกล่าวจากนายวสันต์ เล็กประเสริฐได้ นอกจากนี้ นายวสันต์ เล็กประเสริฐ และนางลัดดาวัลย์ ศิริเวชวิวัฒน์ ได้จัดทำสัญญาไม่แข่งขันกันทางธุรกิจกับ TEM ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม โดยตนเองหรือร่วมกับผู้อื่น รวมทั้งจะไม่ดำเนินการ หรือมีส่วนสนับสนุนให้บริษัท ไอ แท้งค์ จำกัดและ/หรือ บริษัทที่อยู่ภายใต้อำนาจควบคุมกิจการ (ตามที่นิยามไว้ในพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม) ของบริษัท ไอ แท้งค์ จำกัด (หากมี) ประกอบธุรกิจที่แข่งขันกับธุรกิจของ TEM โดยให้มีผลสิ้นสุดเมื่อทั้ง 2 ท่านไม่ได้เป็นกรรมการและ ผู้บริหารของ TEM และบริษัทใดๆ ในกลุ่มบริษัทฯ หรือไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอ แท้งค์ จำกัด (รายละเอียดสัญญาอยู่ในส่วน 2.2.5)
  • TEC เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 30.00 ล้านบาท เป็น 66.00 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 360,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ชำระเต็มจำนวนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

ธันวาคม 2559

  • วันที่ 8 ธันวาคม 2559 TEC ได้ดำเนินการซื้อหุ้น TEG เพิ่มเติมจำนวน 12,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 40.00 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ราคาหุ้นละ 135.64 บาท รวมเป็นเงิน 1.63 ล้านบาท จากนายสุเทพ วัฒนศัพท์ โดยอ้างอิงมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์สุทธิ ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 และทำให้ TEC ถือหุ้นใน TEG ร้อยละ 99.99 (ข้อมูลโครงสร้างบริษัทอยู่ในส่วนที่ 1.4 แผนผัง 1) (นายสุเทพ วัฒนศัพท์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมการค้าผู้ประกอบการอลูมิเนียมและกระจกไทย เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องกับงานอลูมิเนียม และงานงานกระจก ซึ่งเคยร่วมงานกับทางบริษัทฯ ประกอบกับ TEC มีนโยบายในการดำเนินธุรกิจผลิตและติดตั้งงานอลูมิเนียม และงานกระจก)

ตุลาคม 2559

  • TEC ได้ดำเนินการซื้อหุ้น TEG จำนวน 17,998 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 60.00 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ราคาหุ้นละ 135.64 บาท รวมเป็นเงิน 2.44 ล้านบาท จากบริษัท ทีอีจี.โฮลดิ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2559 โดยอ้างอิงมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์สุทธิ ณ วันที่ 30 กันยายน 2559
  • ทั้งนี้ บริษัท ทีอีจี.โฮลดิ้ง จำกัด ได้จดทะเบียนเลิกบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2559 โดยปัจจุบันชำระบัญชีเสร็จสิ้นแล้ว

กุมภาพันธ์ 2559

  • TEC เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 20.00 ล้านบาท เป็น 30.00 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 100,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ชำระเต็มจำนวนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

มิถุนายน 2558

  • วันที่ 18 มิถุนายน 2558 บริษัท ทีอีจี อลูมินั่ม จำกัด (“TEG”) จัดตั้งด้วยทุนจดทะเบียน 3.00 ล้านบาท เรียกชำระร้อยละ 25 แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 30,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท ทีอีจี.โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 60 และส่วนที่เหลือร้อยละ 40 ถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นอื่น เพื่อดำเนินธุรกิจออกแบบและผลิตอุปกรณ์จากอลูมิเนียมสำหรับงานสถาปัตยกรรมและงานตกแต่ง

ตุลาคม 2554

  • วันที่ 7 ตุลาคม 2554 บริษัท ทีอีจี.โฮลดิ้ง จำกัด จัดตั้งด้วยทุนจดทะเบียน 1.00 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เรียกชำระเต็มจำนวน โดย TEC ถือหุ้นร้อยละ 90 และส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 10 ถือหุ้นโดยเพื่อนวิศวกร เพื่อดำเนินธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น

มกราคม 2554

  • TEC เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 5.00 ล้านบาท เป็น 20.00 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 150,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เรียกชำระเต็มจำนวนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

กุมภาพันธ์ 2548

  • TEC เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1.00 ล้านบาท เป็น 5.00 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 4,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เรียกชำระเต็มจำนวนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

กันยายน 2545

  • วันที่ 26 กันยายน 2545 บริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (“TEC” หรือบริษัทแกน) จัดตั้งด้วยทุนจดทะเบียน 1.00 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เรียกชำระเต็มจำนวนโดยมีนายจตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์ และนายกิตติ ดุษฎีพฤฒิพันธุ์ และกลุ่มเพื่อนวิศวกรร่วมกันเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้บริหาร เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างโครงการทุกประเภท และงานออกแบบ
  • TEC เริ่มต้นจากการรับงานโครงการหมู่บ้านจัดสรรในเขตกรุงเทพและปริมณฑล